1. คุกกี้คืออะไร
คุกกี้เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่ถูกดาวน์โหลดมาจัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์มือถือของผู้ใช้บริการ โดยคุกกี้จะทำหน้าที่จัดเก็บการตั้งค่าต่างๆ โดยค่าที่ใช้เก็บนั้นจะเป็นค่าที่ช่วยจดจำตัวคุณและวิธีที่คุณเข้าใช้งานเว็บไซต์ รวมถึงประวัติการใช้บริการที่คุณชื่นชอบในรูปแบบของไฟล์ ซึ่งจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ในการใช้งานออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น โดยคุกกี้ที่จัดเก็บบนเครื่องนั้นจะไม่ได้ทำอันตรายกับผู้ใช้บริการ หรืออุปกรณ์ของผู้ใช้บริการ
2. ประโยชน์ของคุกกี้/
คุกกี้เป็นสิ่งที่บอกให้ บริษัทยาสุนากะ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทราบถึงว่ามีผู้ใช้บริการเข้าชมส่วนใดในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย เพื่อที่จะนำมาปรับใช้และมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บริการ นอกจากนี้การตั้งค่าแรกของเว็บไซต์ด้วยคุกกี้จะช่วยให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงเว็บไซต์ด้วยค่าที่ตั้งไว้ทุกครั้งที่ใช้งาน ยกเว้นคุกกี้ถูกลบจะทำให้การตั้งค่ากลับไปยังค่าเริ่มต้น
3. วิธีการใช้งานคุกกี้
บริษัทยาสุนากะ (ประเทศไทย) จำกัด มีการใช้บริการวิเคราะห์เว็บไซต์โดยใช้เครื่องมือ Google Analytics ซึ่งจะมีการใช้งานคุกกี้เพื่อช่วยในการวิเคราะห์เว็บไซต์และนำไปปรับปรุงเพื่อเป็นประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของ บริษัทยาสุนากะ (ประเทศไทย) จำกัด Google Analytics จะมีการจัดเก็บในรูปแบบที่ไม่ระบุชื่อ และนอกจากนั้นคุกกี้ที่มีการจัดเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ จะถูกส่งไปจัดเก็บไว้โดย Google โดยจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทยาสุนากะ (ประเทศไทย) จำกัด และ Google อาจจะส่งข้อมูลนี้ไปยังบุคคลที่สามในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ดำเนินการ หรือให้บุคคลที่สาม สามารถประมวลผลข้อมูลได้
4. วิธีปิดการทำงานของคุกกี้
ผู้ใช้บริการสามารถตั้งค่า Browser ให้ปิดการทำงานของคุกกี้ และตั้งความเป็นส่วนตัวเพื่อไม่ให้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลของคุกกี้ในอนาคตได้ แต่อย่างไรก็ตามการปิดการใช้งานคุกกี้นั้นจะมีผลทำให้การใช้งานบางอย่างหรือทั้งหมดของการบริการไม่สมบูรณ์ หากต้องการศึกษาเพิ่มเติมวิธีการในการบริหารจัดการคุกกี้ สามารถศึกษาได้ที่ www.allaboutcookies.org หรือ www.aboutcookies.org
ข้อตกลงผู้ใช้หากต้องการใช้งานเว็บไซต์ของเราต่อ ถือว่าคุณยินยอมให้มีการติดตั้งคุกกี้ในคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์มือถือของผู้ใช้บริการ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ในการบริการอย่างสมบูรณ์
บริษัท บริษัทยาสุนากะ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท” มุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ (เรียกรวมกันว่า “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูล”) ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย (เรียกรวมกันว่า “การประมวลผลข้อมูล”) เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัท จึงออกประกาศฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งข้อมูลให้แก่ผู้ใช้บริการอันเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ ตลอดจนเงื่อนไขต่าง ๆ ในการเก็บ รวมรวบ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคล
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม โดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมในการเก็บรวบรวมและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัท
อันประกอบด้วย
1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ–นามสกุล, ตำแหน่ง, สถานที่ทำงาน
2. ข้อมูลสำหรับติดต่อ เช่น ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล
3. ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร, เลขที่บัตรเครดิต
4. ข้อมูลที่ได้จากระบบอัตโนมัติหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น หมายเลข IP Address, Cookie, พฤติกรรมการใช้บริการและแพลตฟอร์มของบริษัท, ประวัติการใช้บริการ, เสียง, ภาพถ่าย, ภายเคลื่อนไหว, ชื่อบัญชี Social Media, Chat, Geolocation โดยบริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน ยกเว้นในกรณีดังต่อไปนี้
1. เพื่อปฏิบัติตามสัญญา กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและบริษัท
2. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ
3. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
4. เพื่อผลประโยชน์อันชอบโดยกฎหมายของบริษัท กรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมในการ ดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัท จะพิจารณาถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นสำคัญ เช่น เพื่อป้องกันการฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่าย การปกป้องสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลเป็นต้น
5. เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ กรณีที่มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
6. เพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐ กรณีมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจรัฐที่ บริษัท ได้รับมอบหมาย
แหล่งที่มาของข้อมูล
1. ข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ที่ท่านได้ให้ไว้ในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การให้ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
2. ข้อมูลจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลจากคู่ค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจ
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้หรือตามวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่แจ้งขณะเก็บรวบรวมข้อมูลหรือที่ท่านได้ให้ความยินยอมหลังจากบริษัทดำเนินการเก็บข้อมูลไปแล้ว
1. เพื่อตอบสนองการให้บริการแก่ท่าน เช่น การสร้างบัญชีผู้ใช้งาน การติดต่อรประสานงาน
2. ใช้ในการดำเนินกิจการ ประเมินผล และปรับปรุงธุรกิจเพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ
3. ดำเนินกิจกรรมใด ๆ ทางบัญชีและการเงิน เช่น การตรวจสอบบัญชี การแจ้งและเรียกเก็บหนี้ การออกใบกำกับภาษี และหลักฐานการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนด
4. ใช้ในการสอบสวนและปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ หรือหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
5. ตอบสนองต่อคำขอของท่าน เช่น การให้บริการหลังการขาย การรับเรื่องร้องเรียน
การส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะไม่เปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานภายนอก เว้นแต่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน หรือเป็นไปตามกรณีดังต่อไปนี้
1. เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือหน่วยงานภายนอก โดยบริษัทจะจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
2. กฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูล หรือเปิดเผยต่อเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอที่ชอบด้วยกฎหมาย
การถ่ายโอนหรือส่งต่อข้อมูลไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจจะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ โดยจะทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทางหรือหน่วยงานปลายทางมีมาตรฐานและนโยบายในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่เพียงพอ
การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้จัดทำและ/หรือเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม พร้องทั้งมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่จำเป็นต่อการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ในนโยบายฉบับนี้เท่านั้น เว้นแต่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ด้วยเหตุอื่นใด เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือการตรวจสอบกรณีการเกิดข้อพิพาท บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาเกินกว่าที่ระบุ การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวโดยจะประกาศบนเว็บไซต์ http://www.yasunaga-thai.co.th/aboutpolicy.html พร้อมระบุวันที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุด บริษัทแนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นประจำ โดยการที่ท่านใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการทางเว็บไซต์ของบริษัทต่อไปหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวจะถือว่าท่านยอมรับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้ดังต่อไปนี้
1. สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง
3. สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
4. สิทธิในการขอลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
5. สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
6. สิทธิในการถอนความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้บริการเคยให้ไว้
7. สิทธิในการขอคัดค้าน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลเมื่อใดก็ได้